|
|
|
|
|
|
สพฉ. เตรียมรับมืออุบัติเหตุปีใหม่ ประสานจังหวัดหา 5 จุดเสี่ยง ลดการสูญเสีย เร่งรณรงค์หยุดโทรป่วนสายด่วนฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ชวนตระหนักถึงชีวิตของผู้ป่วย วอนอย่าโทรป่วนสายด่วน 1669 เผยในพื้นที่ 1 วันมีคนโทรป่วนมากกว่า300 สาย ปิดโอกาสรอดชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ด้านญาติผู้สูญเสียเปิดเผยเหตุการณ์สูญเสียญาติจากการโทรก่อกวน
นายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวในงานเสวนา "เดินทางไปกลับปีใหม่ปลอดภัย หยุดพฤติกรรมโทรป่วนสายด่วน 1669 ต่อชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ว่า แต่ละปีจะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวในอุบัติเหตุช่วงปีใหม่จำนวนมาก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.57 วันที่ 5 ม.ค. ในต้นปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมาว่าเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งสิ้น 2,997 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 341 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,117 คน ดังนั้น สพฉ. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จึงได้เตรียมพร้อมเพื่อลดการสูญเสีย โดยได้รณรงค์ให้แต่ละพื้นที่หาจุดเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและจัดการแก้ปัญหาให้ได้อย่างน้อยจังหวัดละ 5 จุด เช่น จุดกลับรถ ทางแยกทางร่วม สภาพถนน จุดอับ การกำหนดจุดห้ามจอดรถ หรือการวิ่งของรถขนาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียได้ นอกจากนี้ได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อจัดเก็บข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์และแก้ปัญหาด้วย
ส่วนการเตรียมพร้อมในศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 นั้น ได้ประสานให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเจ้าหน้าที่ประจำเพียงพอต่อปริมาณการโทรแจ้งเหตุด้วย โดยประชาชนที่ได้รับอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งได้ที่สายด่วน 1669 บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
“เรื่องที่อยากจะขอร้องประชาชนทุกคน คืออยากให้คิดว่าสายด่วน 1669 เป็นสายด่วนแห่งชีวิต และถึงแม้จะโทรฟรี แต่ก็ไม่ควรโทรเล่น เพราะอาจจะขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และขัดขวางผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีใหม่ ที่จะมีการแจ้งเหตุมากกว่าปกติ ซึ่งสถิติการโทรก่อกวนสายด่วน 1669 ในปีผ่านมาซึ่งเก็บบันทึกในเขตกรุงเทพและปริมณฑลพบว่ามีการโทรก่อกวนสายด่วน 1669 มากกว่าหมื่นครั้ง ในเดือน ก.ค. มีสายก่อกวนมากถึง 10,078 ครั้ง ในเดือน ส.ค. มีสายก่อกวน 10,020 ครั้ง และในเดือนก.ย. มีสายก่อกวนถึง 11,393 ครั้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น รองลงมาคือเด็ก จากสถิติเห็นได้ชัดว่ายังมีหลายคนที่ไม่ตระหนักถึงการใช้สายด่วน และบางคนเห็นเป็นเพียงเรื่องสนุก ทำให้เราต้องสูญเสียผู้ป่วยฉุกเฉินจากคนที่โทรเข้ามาป่วนหลายครั้ง” นพ.อนุชากล่าว
เลขาธิการ สพฉ. ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้ สพฉ. กำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการไม่โทรป่วน โดยที่ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการประจำจังหวัดต่างๆ จะมีบันทึกของเบอร์ที่โทรเข้ามาป่วน โดยการแก้ปัญหาขั้นแรก จะประสานให้ตำรวจลงพื้นที่ตักเตือน แต่หากยังทำผิดอยู่ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้เรื่องที่สำคัญอีกเรื่อง คือการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉิน โดยหลักสำคัญคือ เมื่อเห็นสัญญาณไฟและได้ยินเสี | | |